ห้องที่ ๒๘ : นายเสถียรรักษา


          หณุมานสุครีพขึ้นนภดล เรห็จเฮย
มุขมุ่งพระภุชพลรีบเฝ้า
พบฤทธิกันพหลดาดาษ หาวแฮ
วายุบุตรทยานเข้าเข่นเขี้ยวขู่ถาม
          เหวยนายอสุรนี้นามใด
อาจยกพลไปไฉนผ่านหน้า
กูฤทธิเลื่องตลอดไตรยจักรจบ โลกยแฮ
เร่งหลีกพลแม้ช้าชีพเจ้าจักวาย
          ฤทธิกันยินถ้อยที่ลิงถาม
ดาลโกรธบอกนามตามกลั่นแกล้ว
ซ้ำซักบ่อเกรงขามสวาชื่อ ไฉนเฮย
วายุบุตรบอกนามแล้วฬ่อล้อหลอกมาร
          ราพวิโรธเรียกเร้าพลรณ รงค์เฮย
ต่างพุ่งสาตรสับสนสกัดหน้า
บุตรมารุตโจมผจญกลางเศิก อสูรแฮ
ฟันทบตระหลบร้าถีบเท้าทลวงแทง
          แกว่งตรีโลดไล่ล้างกลางหล
บุกบั่นฝ่าฟันพลฟาดทิ้ง
ขาดแขนขาดฅอตนตายตก ลงแฮ
ยักษยับนับโกฏิกลิ้งกลาศพื้นปัถพี
          ราพร้ายยลม้วยหมดพลมาร
แกว่งคทาหวดทยานไล่ล้าง
ลูกลมโลดรำบานบุกรุก ราพนา
ต่างตบกัดฟัดง้างง่าซ้ำตีแทง
          บุตรพระพายเผ่นเข้าฟอนฟัน แทตยนา
โถมถีบถูกฤทธิกันท่าวดิ้น
จิกเกษแกว่งตรีผันเพียงจักร
แทงอุระราพสิ้นชีพคว้างกลางโพยม
          บุตรองค์อาทิตยได้ยลหลาน
พิฆาฏหมู่มารมลาญชีพแล้ว
สรเสริญเดชยุทธการกอบสวัสดิ์ หลานเฮย
สองกระบี่ผ่องแผ้วเรห็จห้องโพยมหล
          จวบดลคันธมาทน์แล้วลงบท จรเฮย
สู่พลับพลาประนตอนุชไท้
จึ่งสุริโยรสทูลเศิก ราพนา
วายุบุตรเดียวได้พิฆาฏม้วยหมดมาร
          พระลักษณ์สดับถ้อยพานรินทร ทูลเฮย
ปานเสพยอำมฤตยสินธุ์สว่างแผ้ว
นำสองกระบินทร์ลินลาศลุ พระนา
นบบาทหริรักษแล้วกิจแจ้งบรรยายทูล
          สดับพจนอนุชท้าวถามพลัน
ไฉนสุครีพพลขันธ์ผัดไว้
เจดเวรไป่มาทันท่านคิด ไฉนฤๅ
จึ่งสู่แต่สองให้แผกถ้อยคำเฉลย
          สุคริพสนองพจนไท้แถลงถวาย
โดยเหตุเพราะพลสลายหลบลี้
หนึ่งข้าพระบาทหมายเกณฑ์หมด มานา
เกรงแต่ชมภูนี้เพื่อนท้าวบุตรอินทร์
          แม้ว่าทราบเชษฐข้าบรรไลย
จักโกรธกรีพลไกรรุกเร้า
มากวาดประยูรไปจากขีด ขินนอ
ขอพระเดชปกเกล้ากระหม่อมข้าพานร
          พระทรงสดับถ้อยขุนกระบินทร์
เผยพจนชมพลางผินสั่งน้อง
ลิกขิตลักษณวาทินเสร็จมอบ สารนา
สั่งกบี่สองไปพร้องกิจท้าวชมภู
          บุตร์รวีประนดน้อมเอางาน
รับราชสาสน์ถอยคลานลับท้าว
สองเผ่นลิ่วโพยมหาญเหาะรีบ ไปแฮ
บรรลุชมภูด้าวสู่พื้นปัถพี
          สองกบี่เชิญสาสน์ขึ้นศาลา เวรเฮย
แจ้งกิจเสนาพารีบเฝ้า
ชมภูออกอมาตยาทูลเบิก ทูตนา
สองทูตต่างรีบเร้าเหาะขึ้นอ่านถวาย
          ราชสาสนพิศณุไท้ทรงสังข์
เอาอุรุคเปนบัลลังก์อาศน์ท้าว
มีพระกระมลหวังผดุงราษฎร์
ไวยะกูลสู่ด้าวเผด็จเสี้ยนเศิกอสูร
          ทรงนามราเมศผู้จักรพรรดิ
พระเดชเฉกเงาฉัตรร่มเกล้า
เทียบพลแทบเขารัตน์คันธมาทน์
หาท่านเร่งไปเฝ้าบทเบื้องเรณู
          เจ้าชมภูสดับสิ้นเสรจสาส์น
เฉกอสุนิฟาดปานชีพร้าง
เอนสยบแพทย์อยู่งานคืนสติ ท่านนา
ถามทูตโดยสาสน์อ้างพิศณุนั้นเหนไฉน
          สุครีพแถลงลักษณไท้ทวากร
นิลฉวีทรงศรกาจแกล้ว
ท้าวสรวลเยาะพานรพลางว่า สวาเฮย
ผิวะจักรภุชแล้วห่อนได้ธนูทรง
          สี่กรถือจักรแก้วตรีคทา สังข์นอ
เถลองครุธเปนทิพย์พาหนะไท้
ปราบหมู่อสุรพาลาปวงสัตว เกษมแฮ
สาสนทูตล้วนเท็จให้เชื่อเจ้ากลใด
          สุครีพฟังคั่งแค้นเคืองกรรณ
ร้องว่าท่านอย่าสรรเศกแสร้ง
จักไปไม่ไปฉันใดบอก เรานา
ท้าวโกรธไป่ตรัสแกล้งกลับขึ้นคืนสถาน
          น้าหลานรีบผ้ายลุที่พัก นั่งเฮย
บุตรรวิว่าจำจักกลับฟ้อง
ลูกลมบอกเลศลักนาตฤก ชอบนา
จรสู่มาตยแสร้งพร้องค่ำนี้ขอนอน
          อำมาตยทูลท้าวสั่งเกณฑ์ทหาร เสรจเฮย
ไตรตรวจรอบราชฐานทั่วหน้า
ภอล่วงมัชฌิมกาลจันทร์บ่าย โพยมแฮ
วายุบุตรสั่งน้าเสรจแล้วอ่านมนต์
          เดชเวทเหมุทกฟุ้งวายุพัด ต้องแฮ
ปวงกระบี่หลับสงัดเงียบพร้อม
หณุมานถอดยอดรัตน์ปราสาท
ทลุล่วงพิดานค้อมจวบท้าวเธอผธม
          ช้อนแท่นพานเรศรขึ้นคัคณานต์ เรห็จเฮย
สุครีพเหาะตามหลานลิ่วฟ้า
ชั่วนิ้วลัดลุสฐานคันธมาทน์
ลงจากโพยมสู่หล้าจรัสแจ้งแสงจันทร์
          ลูกลมวางแท่นแล้วบุตร์รวี จรเฮย
เฝ้ากฤษณทูลคดีแด่ท้าว
ทรงโสมนัศมีพจนารถ
ตรัสว่าชมภูห้าวฮึกแท้ทรนงตน
          กอบด้วยมานะน้อมนำจิตร
กำเริบถือมีฤทธิ์เลื่องหล้า
หากสองท่านฉลาดคิดการเลศ ดีนอ
ได้ง่ายไหนอย่าช้ายกเข้ามาดู

จบห้องที่ ๒๘

  เนื้อความกล่าวถึงหนุมานและสุครีพพากันเหาะมาพบยักษ์ฤทธิกันทหารกรุงลงกาพาพลยักษ์เหาะกันมาเต็มท้องฟ้า หนุมานขู่ให้ฤทธิกันพาพลหลีกทาง จึงเกิดการเข้าต่อสู้กัน หนุมานฆ่ายักษ์ฤทธิกันและไพร่พลตายหมด เมื่อสุครีพและหนุมานไปถึงเขาคันธมาทน์พบพระลักษณ์ สุครีพทูลความเก่งกล้าของหนุมานที่ฆ่ายักษ์ฤทธิกันและไพร่พล พระลักษณ์จึงพาสุครีพและหนุมานเข้าเฝ้า พระรามตรัสถามสุครีพที่จะนำกองทัพมาใน ๗ วัน แต่ครบกำหนดแล้ว มีมาเพียงสุครีพกับหนุมาน สุครีพทูลว่าไพร่พลแตกหนีเข้าป่า หากเกณฑ์มาทั้งหมดยกไปรบกรุงลงกา เกรงว่าท้าวชมพูเพื่อนของพาลีรู้ว่าพาลีสิ้นชีพแล้ว จะยกทัพมารบนครขีดขินกวาดต้อนเผ่าพงศ์ไป พระรามจึงสั่งให้พระลักษณ์แต่งสารมอบให้สุครีพและหนุมานเป็นทูตนำไปให้ท้าวชมพู สุครีพและหนุมานเข้าเฝ้าท้าวชมพูอ่านสารว่า พระนารายณ์อวตารเป็นพระรามลงเพื่อล้างเหล่ามารให้สิ้น บัดนี้มาประชุมพลอยู่ที่เขาคันธมาทน์ ให้ท้าวชมพูรีบไปเข้าเฝ้า ท้าวชมพูได้ยินนามพระนารายณ์ก็ตกใจจนสิ้นสติ เมื่อฟื้นก็ถามลักษณะของพระนารายณ์ สุครีพบอกว่าพระฉวีสีนิลทรงศร ท้าวชมพูเยาะแล้วบอกว่าพระนารายณ์สี่กร ถือสังข์ จักรแก้ว ตรี คทา มีครุฑเป็นพาหนะ และว่าสารเป็นเท็จเชื่อไม่ได้ แล้วกลับขึ้นปราสาท คืนนั้นสุครีพและหนุมานขอนอนที่นครชมพู ล่วงสองยามหนุมานร่ายมนตร์สะกดให้ทุกคนหลับ แล้วเหาะขึ้นไปถอดยอดปราสาทลงมาช้อนแท่นท้าวชมพูที่บรรทมหลับอยู่ แบกเหาะมาถึงเขาคันธมาทน์ สุครีพเข้าไปทูลพระรามว่าได้ตัวท้าวชมพูมาแล้ว พระรามจึงสั่งให้นำเข้ามา

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “สุครีพสนองพจนไท้”